วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีเลือกซื้อของขวัญ ของที่ระลึก ของชำร่วย ที่ประหยัดเวลาและงบประมาณ

วิธีเลือกซื้อของขวัญ ของที่ระลึก ของชำร่วย ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


http://smegift.com/?lang=th


ก่อนจะหาซื้อของขวัญให้กับบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ครู อาจารย์ เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง พี่ น้อง ลูกค้า วิทยากร แขกวีไอพี ชาวต่างชาติ ฯลฯ ในวาระสำคัญหรือสำหรับใช้แจกในงานที่เราถูกเลือกให้รับผิดชอบในการซื้อของขวัญ เพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่อง หรือได้ของขวัญที่ไม่เหมาะสมกับบุคคล หรือได้ของจำนวนไม่พอกับคนที่เราจะให้ ดังนั้น เราควรวางแผนในการเลือกซื้อก่อนค่ะ
    1.ทำ list รายชื่อ บุคคลที่เราจะให้ของขวัญทั้งหมด เพื่อเราจะได้ไม่ลืมใครไป โดยให้แบ่งกลุ่ม อายุ เพศ วัย ที่ใกล้เคียงกันจัดเอาไว้ในกลุ่มเดียวกัน เพื่อเวลาซื้อจะได้ไปซื้อทีเดียวไม่เปลืองทั้งเวลาและค่ารถด้วย (ถ้าเป็นกรณีที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานให้จัดหาซื้อของขวัญ ก็ควรหาข้อมูลให้ลึกด้วยว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะให้ของขวัญคือใคร โดยแบ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง ระดับกลาง ระดับต้น หรือบุคคลทั่วไป หรือเป็นชาวต่างชาติ เพศชายหรือหญิง เพราะการซื้อของขวัญในกรณีนี้มักจะมีความกดดันสูงกว่า เพราะของขวัญอาจถูกใช้เป็นของกำนัล หรือเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ และยังต้องคำนึงถึงหน้าตาของหน่วยงานด้วย)    2.ตั้งงบประมาณ ว่าเราควรใช้เงินซื้อของขวัญทั้งหมดจำนวนเท่าไหร่ แล้วนำมาหารเฉลี่ยกับจำนวนเงินสำหรับใช้ซื้อของขวัญให้แต่ละคนว่า เป็นงบสำหรับใครเท่าไหร่ดี เวลาซื้อจริงอาจจะบวกลบได้ประมาณเท่าไหร่ ทำวิธีนี้ มักจะประหยัดกว่างบที่วางไว้ตลอดจริงๆนะ (สำหรับผู้ที่หน่วยงานมอบหมายให้หาซื้อของขวัญ ควรสอบถามด้วยว่ามีงบประมาณรวมเท่าไหร่ และงบสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ได้จำแนกไว้ในแต่ละระดับนั้นเท่าไหร่ สามารถบวกลบได้เท่าไหร่ เพื่อกันพลาดหากซื้อของได้หรูเลิศเหมาะสมกับแต่ละระดับ แต่งบไม่พอจะซื้อได้ครบทุกคน ซึ่งอาจถูกตำหนิได้)    3.ตั้งเป้าหมายของขวัญว่าแต่ละกลุ่มควรได้ของขวัญประเภทใด โดยประเมินจากสิ่งที่บุคคลสำคัญที่มีชื่ออยู่ใน list ของเรานั้น จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้ หรือกำลังมีความต้องการ หรืออยากจะได้ หากเราสามารถจำแนกถึง life style ของกลุ่มคนเหล่านี้ได้ด้วยยิ่งดี เช่น พ่อกับแฟนเน้นสไตล์คันทรี่ แม่กับพี่ที่ออฟฟิศเน้นเรื่องดอกไม้กับเรื่องดูแลสุขภาพ เป็นต้น จะได้เลือกซื้อของขวัญได้ถูกใจกับคนรับ อย่างน้อยคนรับก็ไม่ร้องยี้ หรือรับไปอย่างงั้นๆแหละ เสียความรู้สึกคนให้แย่เลย (สำหรับผู้ที่หน่วยงานมอบหมายให้หาซื้อของขวัญ ควรสอบถามกับผู้ที่สั่งให้ซื้อ หรือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในการเลือกว่า อยากได้ของขวัญประมาณไหน (เช่น เน้นความสวยงาม ดูดี สำหรับวางตั้งโชว์ เน้นใช้ประโยชน์ได้จริง เน้นสัญลักษณ์อะไรเป็นพิเศษ เน้นเป็นของมงคลและมีความหมายดี เน้นสำหรับพกพาติดตัวได้ เป็นต้น) นอกจากนี้ ควรถามด้วยว่าของขวัญเน้นทำจากวัสดุอะไร (เช่น โลหะ ไม้ กระดาษ พลาสติก เรซิ่น เป็นต้น) สีสันที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นตัวของขวัญเองหรือแม้แต่หีบห่อ จะเน้นสีทอง สีสันสดใส สีเทาอมเงิน สีโทนเขียว สีโทนน้ำตาล สีโทนแดง เป็นต้น
    4.เลือกสถานที่ซื้อของขวัญ สุดท้าย เราก็คิดไว้คร่าวๆว่าควรไปซื้อของทั้งหมดที่ไหนดี อันนี้จะมีประโยชน์มาก เช่น ห้างสรรพสินค้า ย่านธุรกิจขายส่ง ร้านกิ๊ฟช้อปทั่วไป ร้านค้าในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ถ้าสามารถโทรสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับสินค้าได้ก่อนจะดีกว่า เช่น สถานที่ตั้งของร้านค้าอยู่ตรงไหน สั่งซื้อหลายชิ้นมีส่วนลดพิเศษหรือไม่ มีหีบห่อที่สวยงามอะไรบ้าง มีบริการห่อของขวัญฟรี หรือ ห่อโบว์ฟรีหรือไม่ เป็นต้น และสุดท้าย เลือกเส้นทางที่จะไปหาซื้อของขวัญ ว่าจะไปแวะซื้อที่ไหนก่อนหลัง จะได้ไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการหาซื้อแล้ว ยังประหยัดงบประมาณได้อีก
    5.ลงมือซื้อของขวัญ ช้อปให้เพลินตามร้านที่เราวางแผนไว้ได้เลย ถ้าแหล่งที่ขายของขวัญมีหลายร้านให้เลือก เช่น แถวสำเพ็ง แถวประตูน้ำ แถวสยามสแควร์ หรือร้านในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ถ้าเรายังมีเวลามากสักหน่อย อาจเดินดูร้านค้าเป้าหมายที่คิดไว้สักรอบก่อน อย่าพึ่งซื้อ เผื่อเจอร้านอื่นของดีกว่า ถูกกว่า จดราคาไว้ถ้าทำได้ แล้วก็ค่อยซื้อในรอบที่ 2
ที่มา P'Riya@Eduzones, http://sinebusii.exteen.com/20100107/entry-4, http://www.smegift.com/article-th-76448-ไอเดียเลือกซื้อของขวัญ++(สำหรับส่วนตัว+หรือถูกมอบหมายให้เป็นคนเลือกซื้อ).html